กลับคืนสู่ธรรมชาติไปกับงานศิลปะ

เข้าสู่ครึ่งปีหลังกันแล้วทำให้ได้คิดทบทวนถึงเทรนด์ต่างๆ ซึ่งหลายๆ ที่ได้แชร์กันตั้งแต่ต้นปี ในช่วงที่ทั่วโลกกำลังง่วนอยู่กับการแก้ปัญหาโรคระบาด ทำให้นึกไปถึงเทรนด์ ‘Return to Nature’ หรือ ‘กลับคืนสู่ธรรมชาติ’ ซึ่งเว็บไซต์ศิลปะชื่อดังเว็บไซต์หนึ่งเคยเขียนบทความเกี่ยวกับเทรนด์นี้ไว้ ว่าเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่น่าจับตามอง อย่างที่ทุกคนทราบกันในปี 2563 ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์ที่ทุกคนไม่เคยคาดคิด ทำให้เกิดความวิตกกังวล ผู้คนส่วนมากจึงหันมาพึ่งพาธรรมชาติเพื่อเป็นหนทางหลีกหนีจากโลกแห่งความวุ่นวายนี้ รวมถึงศิลปินด้วยเช่นกัน จะเห็นได้ว่าศิลปินร่วมสมัยหันมานำเสนอโลกของ ‘flora and fauna’ หรือ ‘พืชและสัตว์’ แล้วการกลับคืนสู่ธรรมชาติของศิลปินเป็นแบบไหนกัน? ศิลปินในยุคนี้ได้หันมาสร้างสรรค์ผลงานที่นำเสนอตั้งแต่โลกใต้น้ำ ภาพทิวทัศน์แนวแอบสแตร็ค ไปจนถึงถ้วยเซรามิกที่ทำมาจากพืชผัก ไม่เพียงเท่านั้นผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกต่างประสบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้ รวมถึงศิลปินจากนิทรรศการ Something in the Air และ Individual Minds…Individual Signs ที่จัดแสดงอยู่ที่ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ด้วยเช่นกัน

เริ่มด้วยผลงานจากนิทรรศการ Something in the AIR ที่จัดแสดงผลงานในธีมอากาศของศิลปินจาก AIR หรือ Artists in Residence ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มอบให้กับศิลปินในบริเวณชั้น 3 ของริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก โดยในนิทรรศการมีผลงานอยู่หลายชิ้นที่เข้ากับเทรนด์ ‘กลับคืนสู่ธรรมชาติ’ 

กุลเชษฐ์ ขาวไชยมหา (Gallery HOC)ผลงานทั้ง 2 ชิ้นของกุลเชษฐ์นำเสนอโลกใต้น้ำที่สวยงามและเหนือจินตนาการ โดยเขาต้องการสื่อว่าเหล่าสัตว์น้ำก็ต้องการอากาศในการดำรงชีวิต ดั่งเช่นทุกสิ่งในธรรมชาติที่ล้วนแต่ต้องการอากาศ ก่อเกิดเป็นภาพที่นำเสนอความสมบูรณ์แบบของโลกใต้น้ำนี้

สุนิษา อัศวินรุ่งโรจน์ (Gallery HOC)

ความอึดอัดจากการใส่หน้ากากอันเนื่องมาจากสถานการณ์ในปัจจุบัน ทำให้สุนิษาได้ปลดปล่อยความคิดถึง ความโหยหาอากาศบริสุทธิ์และอิสรภาพในการใช้ชีวิตจากผลงานที่เต็มไปด้วยเหล่ามวลดอกไม้และผีเสื้อ จากการปักเย็บที่เป็นเทคนิคเฉพาะทางของเธอ

พระนาย เกษมถาวรศิลป์ (Gallery HOC)

ในผลงานทั้งสองชิ้นนี้ พระนายต้องการสะท้อนให้เห็นว่าธรรมชาตินั้นจะดำรงต่อไปขึ้นอยู่กับน้ำมือมนุษย์ที่เป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลาย อย่างเช่นพัดที่มนุษย์ได้สร้างขึ้นมาเพื่อก่อให้เกิดลมที่พัดพาทั้งความสงบและความสดชื่นให้กับเรา 

ระวิวรรณ จันทร์เนตร (Young Wolf Art Gallery)

ระวิวรรณได้สร้างภาพจากสีน้ำที่ทำให้เรานึกถึงความบริสุทธิ์ของอากาศและเหล่าธรรมชาติ โดยเธอใช้เหล่าดอกไม้ในการสื่อถึงความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ อย่างเช่น ภาพแรกที่เธอตั้งชื่อว่า ‘The Cosmos Field’ เพราะคำว่าดอกคอสมอสในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า เด็กสาวที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสา 

อารียา พรศิริวิวัฒน์ (Young Wolf Art Gallery)

การใช้สีฟ้าของอารียาในผลงานทั้งสองชิ้นนี้เปรียบได้กับความบริสุทธิ์ของอากาศที่พัดพาความรู้สึกต่างๆมาให้ผู้ชม ไม่ว่าจะเป็นความทรงจำในวัยเด็กหรือความรู้สึกเมื่อไปชายทะเล เรียกได้ว่าผลงานของเธอทำให้เราหลีกหนีความวิตกกังวลในช่วงเวลาอันยากลำบากนี้เลยก็ว่าได้ 

จิรวัฒน์ ตันสุริยวงศ์ (Torch Ginger Gallery)

จิรวัฒน์ได้แสดงให้เห็นถึงเทคนิคการทำเท็กซ์เจอร์ที่ซับซ้อนในภาพผลงานทั้งสองชิ้นนี้ โดยเขาได้ใช้เทคนิคการการหยดสีเข้ามาเสกสรรค์ชีวิตให้กับให้กับมวลดอกไม้และพรรณไม้ให้บานสะพรั่งบนผืนผ้าใบอันว่างเปล่า นอกจากนั้นเหล่าดอกไม้ที่แตกกิ่งก้านออกมาก็พลางทำให้เรานึกถึงอิสรภาพของพวกมันที่ได้ออกมาใช้ชีวิตอย่างมีอิสระ

สิขเรศ  ศิริไพบูลย์ (J7 Gallery and Studio)

สิขเรศได้ใช้เทคนิคขั้นสูงในการสร้างสรรค์ผลงานโดยเขานำปลายผู้กันมาจุดอย่างละเอียดจนเกิดเป็นผลงานกึ่งแอบสแตร็คทั้งสองชิ้นนี้ เขาเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้ตีความจากผลงานของเขาอย่างอิสระ จะเห็นได้ว่ามีดวงตาอยู่ในผลงานทั้งสอง สำหรับสิขเรสแล้วดวงตาก็เปรียบดั่งสิ่งมีชิวิต ที่ดำรงอยู่ได้จากการเกื้อหนุนของธรรมชาติ อย่างเช่นอากาศ เพราะหากไม่มีอากาศก็ไม่มีชีวิต

มาต่อกันที่นิทรรศการ Individual Minds….Individual Signs โดย Willows Art Hall องค์กรไม่แสวงหากำไรที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือศิลปินไทยที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรค COVID-19 

วสันต์ สิทธิเขตต์

วสันต์เป็นหนึ่งในศิลปินชื่อดังของเมืองไทย ผลงานของเขาส่วนใหญ่จะเป็นเชิงวิจารณ์และเสียดสี โดยผลงานทั้งสองชิ้นนี้ วสันต์ได้นำเหล่าสัตว์ไม่ว่าจะเป็นนกหรือปลาเข้ามาเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของภาพ 

เมืองไทย บุษมาโร

ถ้าหากใครเคยเรียนประวัติศาตร์ศิลปะมาจะมองภาพของเมืองไทยแล้วรู้เลยว่าเขาได้แรงบันดาลใจมาจากผลงานศิลปะยุคสมัยใหม่ อย่างเช่น อ็องรี มาติส (Henri Matisse) การใช้สีสันที่สดใสพร้อมกับดอกไม้ และเหล่าสัตว์เลี้ยงอย่างเช่น สุนัขและแมวก็อาจจะทำให้หลายๆ คนหวนนึกถึงช่วงเวลาแห่งความสุขและความสงบสุขที่อาจจะเลือนหายไปในช่วงเวลาอันยากลำบากนี้

กำศักดิ์ อติพิบูลย์สิน

ผลงานของกัมศักดิ์เป็นผลงานสไตล์แอบสแตร็คที่เปิดให้ผู้ชมตีความอย่างอิสระ จากผลงานสองชิ้นนี้ที่ได้หยิบยกขึ้นมา จะเห็นได้ว่ากัมศักดิ์ได้ใช้สีเขียวและสีส้มเป็นหลัก อาจตีความได้ว่าสีเขียวเป็นตัวแทนของความเขียวชอุ่มของเหล่าธรรมชาติ และสีส้มเป็นสีของพระอาทิตย์ที่เฉิดฉายลงมา แล้วคุณล่ะ คิดว่าทั้งสองสีนี้เป็นตัวแทนของอะไร?

มติกรณ์ ยุระตา

สำหรับมติกรณ์ เขาได้อิทธิพลในการสร้างสรรค์ผลงานมาจากลัทธิเซอร์เรียลลิสม์ หากว่าเขาได้นำมาประยุกต์กับศิลปะไทยได้อย่างสวยงาม เห็นได้ชัดจากผลงานทั้งสองชิ้นนี้ที่นำเสนอความงดงามของเหล่าธรรมชาติแบบไทยๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกหรือผีเสื้อที่เกาะอยู่บนต้นไม้โดยมีพื้นหลังเป็นเรือนไทยที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความสงบ  

แครี่ ไรท์

แครี่ ไลท์เป็นอีกหนึ่งศิลปินที่นำเสนอความงดงามของธรรมชาติแบบไทยๆ ผ่านทางภาพวาดทิวทัศน์ไม่ว่าจะเป็นภาพของสระบัวที่อยู่ข้างหลังโบราณสถาน หรือภาพของโบราณสถานพร้อมกันเงาสะท้อนจากในน้ำ เป็นผลงานที่ทำให้เรานึกถึงความสุขเมื่อครั้งที่ได้เดินเที่ยวชมโบราณสถานของเมืองไทย 

เราหวังว่าตัวอย่างภาพตามเทรนด์ ‘Return to Nature’ หรือ ‘กลับคืนสู่ธรรมชาติ’ จากทั้ง 2 นิทรรศการจะทำให้ทุกคนหลีกหนีจากสถานการณ์อันยากลำบากในช่วงนี้ ไปสู่โลกของธรรมชาติอันแสนสวยงามได้  

ชมภาพจากทั้งหมดของนิทรรศการ Something in the Air นิทรรศการที่ https://anyflip.com/grpai/nlew/ และนิทรรศการ Individual Minds..Individual Signs ที่ https://anyflip.com/grpai/xfow/

*หากสนใจผลงาน สามารถติดต่อได้ที่ Email: [email protected] หรือที่ Line: https://lin.ee/wmjiuRl

และสามารถนัดหมายเพื่อเข้าชมผลงานในแกลเลอรี่ได้ทุกๆ วันพฤหัสบดี หรือ inbox เพื่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook: River City Bangkok