Featured Stories
ตำนานของสัตว์เทพมงคลที่ถูกสลักลงบนศิลปะจากแดนมังกร
อีกหนึ่งชิ้นงานไฮไลท์ที่น่าจับตามองของการประมูลครั้งนี้ก็คือกระถางต้นไม้ลายครามขนาดใหญ่จากศตวรรษที่ 19 ซึ่งมีทรวดทรงเป็นเอกลักษณ์และค่อนข้างหาพบได้ยาก ทั้งความอ่อนช้อย การตกแต่งด้วยหน้ากากสิงห์ และลวดลายแสนละเอียดลออแฝงความหมายมงคลที่สลักสลัวอยู่ทั่วชิ้นงาน
หนึ่งในลวดลายที่ปรากฏอยู่ชัดเจนที่สุดบนตัวกระถางก็คือลายสิงห์ ซึ่งถือเป็นสัตว์มงคลผู้มีอำนาจในผืนป่าทั้งปวง มีความเชื่อกันว่าการประดับลายสิงห์ไว้บนพาชนะหรือใช้เป็นลวดลายในการตกแต่งจะส่งเสริมให้ผู้เป็นเจ้าของแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง บางตำนานกล่าวว่าเมื่อครั้นที่ชาวจีนเดินทางไปยังถิ่นดินแดนแอฟริกาก็เกิดประทับใจในความสง่างามของสัตว์ชนิดนี้ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นร่างกายกำยำแข็งแรงหรือเสียงคำรามอันทรงพลังที่ดังก้องกังวานไปทั่วเสียจนเหมือนเป็นเจ้าแห่งสัตว์ป่าทั้งปวง เหล่านักเดินทางเมื่อกลับไปยังประเทศจีนก็จดจำความน่าเกรงขามของมันกลับมาเสริมเติมแต่งกับจินตนาการเพื่อเส้นไหว้จนสิงห์กลายเป็นที่ชื่นชมกันทั้งแผ่นดินจีน เคารพบูชากันตั้งแต่ชาวบ้านไปจนถึงขุนนางและกษัตริย์ อีกทั้งยังมีการนิยมจัดตั้งสิงห์ไว้หน้าสถานที่สำคัญหรือสถานที่เคารพบูชาต่าง ๆ เช่น หน้าพระบรมมหาราชวัง โบสถ์ และวัด
อีกตำนานที่เล่าถึงเรื่องราวของสิงห์กล่าวว่า ในวันหนึ่งที่สิงห์ตัวผู้และตัวเมียกำลังหยอกล้อเล่นกันอยู่นั้น ขนของมันก็หลุดออกจากตัวและเกาะกันเป็นก้อนกลม จากนั้นไม่นานก็มีสิงห์ตัวเล็กปรากฏกายออกจากก้อนกลมนั้น เราจึงมักเห็นรูปปั้นสิงห์เหยียบลูกทรงกลมอยู่บ่อย ๆ ตามสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ของจีน โดยชาวจีนมีความเชื่อกันว่าควรจัดตั้งสิงห์ไว้หน้าประตูหรือปลายหัวเสาเพื่อแสดงถึงอำนาจและความน่าเกรงขาม เนื่องจากสิงห์เป็นหนึ่งในสัตว์เทพมงคลที่ควรเคารพนับถือ ซึ่งกระถางต้นไม้ที่เรานำมาให้ชมกันนี้ก็ได้มีการประดับตกแต่งสิงห์ลงไปบนชิ้นงาน ไม่ว่าจะผลงานประติมากรรมของหน้ากากสิงห์ที่ประดับอยู่บนตัวกระถางหรือลวดลายที่เล่าถึงตำนานของสิงห์ในวัฒนธรรมจีน เรียกได้ว่าเป็นการลงรายละเอียดที่มีความอ่อนช้อยและปราณีตเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ตัวกระถางยังถูกตกแต่งไปด้วยลวดลาย “หยูอี้” หรือ “ยู่อี่” (如意) สัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคลที่ชาวจีนนิยมเสริมเติมแต่งบนชิ้นงานศิลปะและสถาปัตยกรรมต่าง ๆ คำว่า “หยู” (如) มีความหมายว่า “เหมือน, เป็นดั่งเช่น” ส่วนคำว่า “อี้” (意) แปลได้ว่า “ความคิด, ความต้องการ” เมื่อนำคำทั้งสองมารวมกันแล้ว คำว่า “หยูอี้” (如意) จึงหมายถึงนามอันเป็นมงคลยิ่งคือ “เหมือนดั่งคิด, เป็นดั่งต้องการ” นอกจากนี้ ในสมัยหนานเป่ยเฉา คำว่าหยูอี้ยังถูกดัดแปลงเพื่อใช้เป็นบรรยายถึงไม้เท้าขนาดเล็กที่มีส่วนหัวงอโค้งเป็นวงซึ่งมักประดับในพระราชวังหรือคฤหาสน์ของขุนนางชั้นสูงอีกด้วย ลวดลายหยูอี้ที่ประดับอยู่บนตัวกระถางนั้นจึงเป็นการนำรูปทรงของเมฆมาต่อลายโดยใช้หัวคฑาหยูอี้มาผูกลายต่อกัน โดยได้มีการดัดแปลงหัวคฑาหยูอี้ให้มีความคล้ายคลึงกับเห็ดหลินจือที่เชื่อกันว่าถ้าใครได้กินเข้าไปแล้วจะมีชีวิตเป็นอมตะ
ยิ่งไปกว่านั้น กระถางต้นไม้ลายครามชิ้นนี้ยังตกแต่งไปด้วยลวดลายเถาดอกไม้ที่เกิดจากประยุกต์ลวดลายของดอกไม้นานาชนิด รวมไปถึงขอบกระถางด้านบนที่มีการเขียนลวดลายพันธุ์ไม้สี่ฤดูพร้อมกับการวาดแมลงและผีเสื้อโบยบินเสมือนมีความเคลื่อนไหวดั่งอยู่ท่ามกลางสายลม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของสวนสวรรค์แห่งนี้ กระถางต้นไม้ลายครามชิ้นนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งชิ้นงานที่มีความพิเศษและหาชมได้ยากยิ่งอีกชิ้นเลยทีเดียว
กระถางต้นไม้ขนาดใหญ่คู่กระเบื้องเคลือบน้ำเงินขาวทรงเอวคอด ท้องป่อง ประดับหูรูปหน้ากากสิงห์เขียนลายสิงโตเล่นลูกบอล (2 ชิ้น)สไตล์จีนจากช่วงต้นศตวรรษที่ 19
ขนาด: กว้าง 53.5 ซม. สูง 43 ซม.
ราคาประเมิน: 30,000 – 50,000 บาท
ราคาเริ่มต้น: 30,000 บาท