Featured Stories
September at River City Bangkok with Andy Warhol
เดือนแฟชั่น สายแฟห้ามพลาดเช็คอินในงาน Andy Warhol: Pop Art (until 24 November 2020)กันยายน เดือนแห่งแฟชั่นทั้งที ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก จัดจุดเช็คอินที่คนมีสไตล์หรือสายแฟต้องมาด้วยเรื่องราวของคนดังและผลงานของแอนดี้ วอร์ฮอล ที่เกี่ยวกับแฟชั่น รู้อย่างนี้แล้ว เราว่าคุณต้องรีบแต่งตัวออกมาดูนิทรรศการนี้แล้วล่ะ
#MarilynMonroe
มาริลีน มอนโร คือหนึ่งในสไตล์ไอคอนที่ถูกพูดถึงมากที่สุด แต่น่าเสียดายที่เธอจากโลกนี้ไปในปี 1962 (เมื่ออายุยังไม่ถึง 40 ปี) และบังเอิญว่าในเวลานั้นแอนดี้ วอร์ฮอล รู้สึกตื่นเต้นกับงานพิมพ์ซิลค์สกรีนจากภาพถ่าย เขาจึงนำภาพของมาริลีนที่ถ่ายไว้เพื่อโปรโมทหนังเรื่อง Niagara ในปี 1953 มาสร้างสรรค์ด้วยเทคนิคนี้ในปีที่สไตล์ไอคอนคนนี้เสียชีวิตจนเกิดเป็นผลงานอันโด่งดังอย่าง Marilyn Diptych เป็นงานจิตรกรรมซิลค์สกรีนภาพใบหน้าของมาริลีนมากถึง 50 ภาพเรียงต่อกัน เรียกได้ว่าวอร์ฮอลทำให้เธอกลายเป็นอมตะไปตลอดกาลด้วยศิลปะแนวป็อปอาร์ต ไม่นานหลังจากที่ทำผลงานชิ้นนี้ วอร์ฮอลได้ทำงานสกรีนพริ้นต์ Marilyn Monroe อีก 3 ชิ้นในปี 1967 (มีอยู่ในนิทรรศการนี้) ซึ่งเป็นการต่อยอดมาจากชิ้นงาน Marilyn Diptych นั่นเอง
นอกจากโลกแห่งศิลปะ ใบหน้าของมาริลีนในสไตล์ป๊อปอาร์ตได้ผงาดอยู่บนรันเวย์ของเวอร์ซาเช (Versace) ในปี 1991 ซึ่งออกแบบโดยจิอานนี เวอร์ซาเช (Gianni Versace) ผู้ก่อตั้งแบรนด์เวอร์ซาเช เขาเป็นอีกคนหนึ่งที่คลั่งไคล้ในผลงานของแอนดี้ วอร์ฮอล ผู้ผนวกศิลปะเข้ากับการใช้ชีวิต ดั่งที่เราเห็นได้จาก The Factory สตูดิโอทำงานและจัดปาร์ตี้ของวอร์ฮอล ปัจจุบันชุดเดรสพริ้นต์ใบหน้าของมาริลีนและเจมส์ ดีน (James Dean) อยู่ที่ Met Museum ในนิวยอร์ค
#Madonna
นักร้องผู้ทรงอิทธิพลในเรื่องการแต่งตัวและแต่งหน้าเป็นอีกหนึ่งคนที่เราเห็นบนปกนิตยสารกันอยู่บ่อยๆ แน่นอนว่าเธอต้องไม่พลาดขึ้นปกนิตยสาร Interview ที่วอร์ฮอลร่วมก่อตั้งขึ้นในปี 1969 จุดเด่นของนิตยสารนี้ตามชื่อก็คือมีการตีพิมพ์บทสัมภาษณ์คนดังๆ โดยไม่ได้ผ่านการแก้หรือเซ็นเซอร์จากเอดิเตอร์ มาดอนนาได้ขึ้นปก Interview ในปี 1985 จากฝีมือของวอร์ฮอล ซึ่งตอนนั้นเธอได้คบกับฌอง-มิเชล บาสเกีย (Jean-Michael Basquiat) ศิลปินผิวสีผู้สร้างงานกราฟิตี้ที่มีชื่อเสียงมากในตอนนั้นและเป็นเพื่อนกับวอร์ฮอลด้วย มาดอนนาเองเคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Interview ถึงพฤติกรรมการทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำของแฟนหนุ่มคนนี้อีกด้วย ส่วนใครอยากรู้ถึงมิตรภาพระหว่างวอร์ฮอลและบาสเกีย ลองหาหนังเรื่อง Basquiat (1996) มาดู เรื่องนี้ได้เดวิด โบวี (David Bowie) มารับบทเป็นวอร์ฮอล กำกับโดยจูเลียน ชนาเบล (Julian Schnabel) ศิลปินและช่างภาพชาวอเมริกัน คนเดียวกับที่กำกับเรื่อง At Eternity’s Gate (2018) ที่นำเสนอเรื่องราวชีวิตของแวน โก๊ะ นั่นแหละ
ไลซา มินเนลลี เป็นนักร้องและนักแสดงอีกหนึ่งคนที่อยากพบกับวอร์ฮอล เธอเคยไปที่ The Factory เองอยู่หลายครั้ง แต่ทั้งคู่ได้กลายเป็นเพื่อนกันเมื่อได้พบกันที่ Studio 54 ไนท์คลับอันโด่งดังที่นิวยอร์คในตอนนั้น
ด้วยความสามารถทางการแสดงทำให้เธอคว้ารางวัลออสการ์จากหนังเรื่อง Cabaret และได้ขึ้นแท่นเป็นสไตล์ไอคอนแห่งยุค 70s ได้ในที่สุด ลุคการแต่งตัวและแต่งหน้าของเธอในผลงานเรื่องนี้มักถูกหยิบยกมาเป็นต้นแบบให้กับเหล่าดีไซเนอร์และสไตลิสต์มาจนถึงปัจจุบัน
ใครที่ได้ดูหนังเรื่อง Sex and the City ภาค 2 มีฉากที่เธอขึ้นมาร้องคัฟเวอร์เพลง Single Ladies ของบียอนเซ่ (Beyonce) ด้วย