Kiss Me Underneath the Mistletoe

หลายคนคงเคยได้ยินประโยค “Kiss me underneath the mistletoe” กันมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นจากเพลง ภาพยนตร์ หนังสือ หรือตามสื่อต่าง ๆ แต่ทุกท่านทราบกันหรือไม่ว่าต้นมิสเซิลโทนี้มีความเกี่ยวข้องกับคริสต์มาสและกลายมาเป็นสัญลักษณ​์ของความโรแมนติกนี้ได้อย่างไร? ในช่วงฤดูหนาวของทุกปีนั้นนอกจากจะเป็นช่วงการเฉลิมฉลองของเทศกาลคริสต์มาสแล้ว ยังถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะสำหรับคู่รักหลาย ๆ คู่ในการออกเดต โดยเมื่อเริ่มเข้าถึงฤดูกาลคริสต์มาสแล้วล่ะก็ การได้จุมพิตกับคนที่เรารักใต้พุ่มมิสเซิลโทก็ถือเป็นอะไรที่โรแมนติกที่สุดเลยทีเดียว ชื่อของต้นมิสเซิลโทปรากฏอยู่ในบันทึก ประเพณี บทประพันธ์ต่าง ๆ มาตั้งแต่อดีต ย้อนไปจนถึงตำนานกรีกกันเลยทีเดียว โดยได้มีการระบุความเชื่อมโยงระหว่างตำนานการลอบสังหารของ ‘บัลเดอร์’ บุตรของเทพแห่งดวงอาทิตย์และ ‘ฟริกกา’ เทพีแห่งความรักและการแต่งงาน ว่าเป็นพืชที่เทพีได้มอบให้แก่ลูกชายเป็นของขวัญหลังจากฟื้นคืนชีพมาได้ ทำให้ต้นมิสเซิลโทกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติสุขและความรัก นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึงต้นมิสเซิลโทว่าที่ผลของมันเป็นสีขาวนั้นเป็นเหตุจากฟริกกาผู้หลั่งน้ำตาแห่งความอาดูรเมื่อลูกชายของตนถูกลอบสังหารอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ ต้นมิสเซิลโทจึงมีความเกี่ยวข้องกับความรักตั้งแต่อดีตเป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม การจุมพิตใต้ต้นมิสเซิลโทนั้นเริ่มกลายมาเป็นหัวข้อของบทสนทนาต่าง ๆ หลังจากเผยแพร่บันทึกหนึ่งของนักเขียนชาวอเมริกันในช่วงปี ค.ศ. 1800 นามว่า Washington Irving ที่ระบุว่า “ผู้ชายจะถือโอกาสจุมพิตหญิงสาวที่หมายปองระหว่างกำลังเก็บผลจากมิสเซิลโท หากเก็บจนหมดแล้วก็เป็นอันหมดเวลา” กระแสของการจุมพิตใต้พุ่มมิสเซิลโทกลับมาอีกครั้งในประเทศอังกฤษจากเรื่องราวในหนังสือของ Charles Dickens ทั้งเรื่อง “The Pickwick Papers” (1837) และ “A Christmas Carol” (1843) รวมไปถึงหนังสั้นสุดโรแมนติกที่มีชื่อว่า “The Mistletoe Bough” ซึ่งปิดฉากสุดท้ายด้วยการจุมพิตใต้ต้นมิสเซิลโทนั่นเอง การจุมพิตใต้มิสเซิลโทกลับมาเป็นธรรมเนียมในประเทศสหรัฐฯ อีกครั้งในช่วงปี ค.ศ. 1820 จากบทประพันธ์ของ Washington Irving เรื่อง “The Sketch Book” ที่เล่าถึงประเพณีคริสต์มาสในประเทศอังกฤษที่มักจะประดับตกแต่งไปด้วยต้นมิสเซิลโทควบคู่ไปกับเรื่องราวของสาวใช้ผู้ได้รับจุมพิตใต้ต้นมิสเซิลโทในบทประพันธ์นี้ ทำให้มิสเซิลโทกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของความรักในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และเป็นอีกหนึ่งธรรมเนียมแสนน่ารักที่ทำให้คู่รักได้ปฏิบัติกันมาจนถึงปัจจุบัน