เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น.

Featured Stories

ความงามจากการประชันแห่งยุคเรืองวัฒนธรรม

ลับแลถูกนำมาใช้ในบ้านเรือนตั้งแต่อดีตกาล เชื่อว่าได้รับอิทธิพลจากชาวจีนผ่านการค้าแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะในสมัยรัตนโกสินทร์ พบการติดตั้งลับแลทั้งในเขตพระราชวังและวัด เช่น ผนังบังตาด้านในประตูกำแพงแก้ววัดทองธรรมชาติ กรุงเทพฯ

ลับแลไม้ประดับกระเบื้องเบญจรงค์ลายเทพนมนรสิงห์บนพื้นสีดำ ถือเป็นเครื่องสะท้อนประวัติศาสตร์อันยาวนานของไทย ด้วยความงามของลายเส้นพู่กันที่จรดลงบนผืนแผ่นกระเบื้องเป็นลวดลายเทพนมนรสิงห์ มีความอ่อนช้อย ละเอียดและประณีต ท่ามกลางเปลวกนกอันเป็นลักษณะเด่นที่ประกอบกับลายเทพนมได้อย่างสมบูรณ์ ประดับบนกรอบไม้ฉลุลายเผยความสง่างามให้กับชิ้นงานนี้เป็นยิ่งนัก เบญจรงค์ลายเทพนมยังเป็นลวดลายดั้งเดิมที่ปรากฏขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา เริ่มจากช่างศิลป์ชาวสยามให้อย่างกับช่างชาวจีนผลิตกระเบื้องเบญจรงค์ในรูปแบบต่างๆ และส่งกลับมายังไทย

เบญจรงค์พื้นสีดำได้รับความนิยมมากในสมัยอยุธยา มีการสร้างสรรค์รายละเอียดแตกต่างกันไป เช่น เขียนลายเทพนม เทพนมนรสิงห์ หรือเทพนมราชสีห์ ถือเป็นชิ้นงานในอดีตกาลที่แสดงถึงความรุ่งโรจน์ของศิลปวัฒนธรรมไทย 

ลับแลไม้เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญยิ่งของเครื่องโต๊ะ หรือ เครื่องบูชาของไทยที่รับอิทธิพลมาจากจีน สันนิษฐานว่าเข้ามาในไทยเมื่อ พ.ศ. 2361 สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อกำลังสร้างสวนขวาในพระบรมมหาราชวัง จากการค้นพบของราชทูตไทยที่ได้ออกเดินทางไปยังประเทศจีน ซึ่งเห็นการตกแต่งวังและบ้านเรือนด้วยเครื่องลายคราม จึงนำมาเป็นแบบแผนในการตกแต่งพระตำหนักในสวนขวา นับตั้งแต่นั้นตามเรือนของขุนนางและเจ้านายเริ่มมีการตกแต่งด้วยเครื่องโต๊ะบูชา โดยเครื่องโต๊ะที่สมบูรณ์จะประกอบด้วย ลับแล ขวดใหญ่ปักดอกไม้ใน  กระถางใน  กระบอกธูป  เชิงเทียนคู่ ชามลูกไม้หน้า ขวดปักดอกไม้หน้า และกระถางหน้า

เครื่องโต๊ะเป็นที่นิยมอย่างมากจนมีการประกวดในงานฉลองพระอารามที่ได้ปฏิสังขรณ์ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อมาการตั้งโต๊ะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยการนี้พระยาโชฎึกราชเศรษฐี (พุก) ขุนนางคนสำคัญจึงทูลขอพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนราชสีหวิกรม พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้สั่งทำแบบอย่างเครื่องโต๊ะจากเมืองจีนเพื่อใช้เป็นเครื่องโต๊ะของไทย ในชื่อยี่ห้อกิมตึ๋งฮกกี่ (金堂福記 Jīntáng Fú Jì) หรือที่นิยมเรียกกันว่า โต๊ะกิมตึ๋ง จวบจนยุคของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 การจัดโต๊ะบูชาเฟื่องฟูถึงที่สุด จึงมีการประกวดประชันการตั้งเครื่องโต๊ะครั้งใหญ่อย่างเลื่องลือนาม

ลับแลไม้ประดับกระเบื้องเบญจรงค์ลายเทพนมนรสิงห์บนพื้นสีดำชิ้นนี้มีความงดงามอันน่าทึ่ง จนเป็นที่ประจักษ์ในฐานะหัตถศิลป์ชั้นเอกที่พึงหวงแหนไว้

Lot 99

ลับแลไม้ประดับกระเบื้องเบญจรงค์ลายเทพนมนรสิงห์บนพื้นสีดำ (1 ชิ้น)

สไตล์ไทย-รัตนโกสินทร์จากศตวรรษที่ 19

ขนาด: กว้าง 44 ซม. สูง 68 ซม.

ราคาประเมิน: 1,200,000 – 1,500,000 บาท

ราคาเริ่มต้น: 500,000 บาท

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึก