Featured Stories
เที่ยวสวนสวยตามรอยภาพวาดโมเนต์
14 พฤศจิกายน วันคล้ายวันเกิดของศิลปินชาวฝรั่งเศสนาม โคลด โมเนต์ (Claude Monet) ผู้เขียนรูป Impression Sunrise ซึ่งเป็นที่มาของชื่อศิลปะลัทธิอิมเพรสชั่นนิสม์ (Impressionism) ในศตวรรษที่ 19
แม้ศิลปินผู้นี้จะเสียชีวิตไปแล้วเกือบร้อยปีแต่ชื่อของเขาและผลงานยังคงเป็นที่กล่าวขานมาจนถึงปัจจุบันและเป็นที่ปรารถนาของเหล่านักสะสมงานศิลปะ ล่าสุดอ็อคชั่นเฮ้าส์ชื่อดังระดับโลกอย่างซัทเทบีส์ (Sotheby’s) ได้นำงานจิตรกรรมขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า “Coin Le Bassin aux Nymphéas” จากผลงานชุด “Water Lilies” ออกมาประมูลที่นิวยอร์คในวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้ และคาดว่าจะปิดการประมูลไปได้มากกว่า 40 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 1,300 ล้านบาท วงการศิลปะต้องตามติดหน้าจอดูกันต่อไปในอีกไม่กี่วันนี้ว่าผลงานชิ้นนี้ของโมเน่ต์จะกวาดราคาไปได้เท่าไหร่
การครอบครองผลงานจริงของโมเนต์คงเป็นเรื่องที่ไกลเกินเอื้อมๆ สำหรับเราๆ แต่การได้ไปเที่ยวชมสถานที่ที่ศิลปินคนนี้เคยอาศัยอยู่และสร้างสรรค์ผลงานไว้มากมายก็อาจกลายเป็นจริงได้ (หลังโควิด) เนื่องในโอกาสวันสำคัญของศิลปินผู้โด่งดังคนนี้ เราจึงอยากพาคุณไปเที่ยวชมบ้านสวนของเขาที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส
สถานที่นี้คือสวนในหมู่บ้านชีแวร์นี (Giverny) สวนสวยในภาพของโคลด โมเนต์ (Claude Monet) ซึ่งมีอยู่จริง ตัและงอยู่ไม่ไกลจากกรุงปารีส เพียงเดินทางไปทางเหนือ สามารถเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับได้โดยรถไฟจากสถานีปารีส์ แซ็งต์ ลาซาร์ (Paris Saint Lazare) ที่ปรากฏอยู่ในผลงานของศิลปินคนนี้ด้วยเช่นกัน
มเนต์อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านในชีแวร์นีตั้งแต่ปีค.ศ. 1833 จนกระทั่งเสียชีวิตในปีค.ศ. 1926 บริเวณที่เป็นสวนแบ่งเป็นสองส่วนคือส่วนที่เป็นบ้านและมีสวนดอกไม้อยู่ข้างหน้า เรียกว่าโคลส์ นอร์ม็องด์ (Clos Normand) อันเต็มไปด้วยดอกไม้สีสันต่างๆ ทั้งดอกแดฟโฟดิล (Daffodil) ดอกทิวลิป ดอกไอริส ดอกป๊อปปี้ ตรงกลางมีถนนเล็กๆ นำไปสู่บ้านที่ปกคลุมด้วยต้นฮันนีซัคเคิล (Honeysuckle) ในช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน จะเต็มไปด้วยดอกแนสเตอร์เตียม (Nasturtium) สีส้มปกคลุมไปทั่วผืนดินและส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่ว
ส่วนอีกฝั่งของถนนเป็นสวนที่มีบ่อน้ำที่แฝงกลิ่นอายแบบญี่ปุ่น โดยทั้งสองส่วนถึงแม้จะแตกต่างแต่ก็เติมเต็มกันได้อย่างดี ตลอดเวลาหลายปีที่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นี่โมเนต์ได้จ้างคนสวนปลูกดอกไม้และผลไม้ต่างๆ เพื่อทำให้สวนดูสวยงามและสงบเงียบ เหมาะสำหรับเป็นที่วาดภาพผลงานนับร้อยชิ้น ที่แห่งนี้จึงเป็นเหมือนทั้งชีวิตของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงชีวิตขาขึ้นเขาขายภาพผ่านดีลเลอร์ชื่อพอล ดูร็องด์-รูเอล (Paul Durand-Ruel) จนได้เงินมากพอเพื่อนำมาซื้อบ้าน ยิ่งมีเงินมากเท่าไหร่ สวนก็ยิ่งงามสะพรั่งมากขึ้นเท่านั้น
สระดอกบัวและสะพานไม้ญี่ปุ่น
บริเวณนี้เป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่ปรากฏในภาพวาดชุด Water Lilies หรือ Nymphéas ที่โมเนต์วาดขึ้นในช่วงที่ตาเป็นต้อกระจกจึงมีผลต่อสีของภาพเขียน ภาพชุดดอกบัวจึงมีสีน้ำเงินมากกว่าภาพอื่นๆ ที่วาดขึ้นก่อนได้รับการผ่าตัด ภาพชุดนี้ประกอบด้วยภาพวาดสีน้ำมันจำนวน 250 ชิ้น เป็นภาพบ่อน้ำอันเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้จากแถบตะวันออก เช่น ต้นแปะก๊วย ดอกโบตั๋น และไม้ไผ่ ซึ่งมีสีสันตัดกับสะพานสีเขียวสไตล์ญี่ปุ่น (คอหนังหลายคนอาจจำฉากหนึ่งในหนังเรื่อง Midnight in Paris (2011) ของวู้ดดี้ อัลเลน (Woody Allen) เป็นฉากที่พระเอกและนางเอกจูบกันบนสะพาน) เมื่อแสงตกกระทบกับผืนน้ำ สีสันต่างๆ ของดอกไม้จะดูพร่ามัวซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ในงานของโมเนต์ผู้ชื่นชอบในเรื่องของแสง ผู้เชี่ยวชาญศิลปะบางคนกล่าวว่าภาพนี้เป็นจุดเริ่มต้นไปสู่ศิลปะแนวแอ็บสแทร็ค
บ้านสไตล์ฝรั่งเศสที่กลายเป็นไดอารีของโมเนต์
นอกจากภายนอกที่สวยเหมือนในภาพวาดแล้ว เมื่อเข้าไปในบ้านสไตล์ฝรั่งเศสก็ยิ่งทำให้เราได้รู้จักกับศิลปินคนนี้มากขึ้น โมเนต์เป็นผู้เลือกสรรเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เอง ชั้นล่างเป็นห้องรับแขกที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ส่วนห้องทำงานตกแต่งด้วยภาพวาดบนกำแพง ส่วนห้องครัวเป็นสีฟ้าตัดกับสีเหลืองอันสดใสของห้องรับประทานอาหารที่ตกแต่งด้วยภาพพิมพ์ญี่ปุ่นที่เขาชื่นชอบ ส่วนชั้นที่สองเป็นห้องนอนของโมเนต์ ห้องต่างๆ ทั้งหมดนี้ปัจจุบันเปิดให้เข้าชมและพัก มีร้านอาหารฝรั่งเศส Les nymphéas อยู่ตรงข้ามบ้าน เดินออกไปอีกนิดมีร้านอาหารชื่อ La capucine
ทั้งหมดนี้ยังอยู่อย่างครบถ้วนในปัจจุบันราวกับโมเนต์ ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ยังคงมีลมหายใจอยู่ …..
เก็บความประทับใจในผลงานศิลปะของโมเนต์ไปกับไอเท็มราคาพิเศษ ลดสูงสุดถึง 50% เมื่อซื้อบนเว็บไซต์ www.rivercitybangkok.com หรือ The Gallery Shop ชั้น 1 ถึง 30 พฤศจิกายนนี้เท่านั้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Line @thegalleryshop
#Rivercitybangkok
#Rivercitycontemporary