เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น.

Featured Stories

ไม่ต้องบินไปดูงานศิลปะระดับโลกที่ไหนไกล เพราะที่เมืองไทยก็รวม Masterpiece ของศิลปินไทยระดับอินเตอร์ ให้ชมกันฟรีๆที่ G111 Gallery !

ในสถานการณ์ปัจจุบัน ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังรอคอยวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทำให้ยังไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก เพราะต้องร่วมด้วยช่วยกันรักษาระยะห่างตามมาตรการขอความร่วมมือจากภาครัฐ งานเทศกาลศิลปะดีๆ แกลเลอรีต่างๆ ในเมืองไทยเราก็เงียบเหงาไปตามๆ กัน ไม่ต้องพูดถึงการเดินทางออกนอกประเทศกันเลยทีเดียว ทำเอาขาท่องเที่ยว และคนรักงานศิลปะอาจจะแห้งเหี่ยวกันไปบ้าง เพราะขาดแรงบันดาลใจจากผลงานศิลปะตามแกลเลอรีต่าง ๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ

แต่ไม่ต้องเสียใจไป…. วันนี้ เราจึงมาพาชมแกลเลอรีแห่งใหม่ใจกลางย่านถนนเจริญกรุง “G111 Gallery Antiques & Collectibles” ที่ชั้น 4 ของ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ซอยเจริญกรุง 24 แหล่งรวบรวมผลงานศิลปะระดับศิลปินแห่งชาติและศิลปินไทยระดับนานาชาติ ไว้หลากหลายท่าน

เมื่อพูดถึง ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ก็คงไม่ต้องพูดถึงบทบาทของศูนย์การค้าแนวใหม่ รวมศิลปะและของสะสมล้ำค่าแห่งเอเชีย ที่สามารถดึงดูดทั้งนักสะสมและผู้ที่หลงใหลในศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก แล้วจะยิ่งเพิ่มความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นสักเท่าใด เมื่อริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ได้จับมือกับ สำนักพิมพ์สยาม เรเนซองส์ ผู้ผลิต Content ด้านประวัติศาสตร์ ศิลปะ และของสะสม ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี และยังเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ภาพถ่ายและของสะสมล้ำค่า โดยเฉพาะงานศิลปะ ที่ตัดสินใจต่อยอดผลงานเหล่านั้นด้วยการนำออกมาจัดแสดงให้คนทั่วไปได้มีโอกาสได้รับชมและเป็นเจ้าของกันได้ในรอบหลายสิบปี

ลองนึกถึงบรรยากาศของแกลเลอรี รายล้อมไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ไทยและจีนเมื่อกว่าร้อยปีก่อนที่ยกมาจาก วิลล่า มูเซ่ เขาใหญ่ มีมุมหนังสือของสำนักพิมพ์ สยาม เรเนซองส์ และหนังสือประวัติศาสตร์ทั้งเก่าและใหม่อย่างหลากหลายให้อ่านและเลือกซื้อได้ตามใจชอบ และทุกมุมของแกลเลอรีเต็มไปด้วยผลงานศิลปะของศิลปินแห่งชาติ รวมไปทั้งศิลปินไทยผู้สร้างชื่อเสียงดังไกลไปทั่วโลก ทั้งหมดนี้ เปิดพื้นที่ให้คุณได้เข้ามาสัมผัสกันฟรีๆ ที่นี่ ที่เดียว!

หนึ่งในนั้นคือ อ.เฉลิม นาคีรักษ์ ศิลปินแห่งชาติ ประจำปี 2531 สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) เป็นศิลปินอาวุโสที่เป็นที่นับถือในความสามารถในวงการศิลปะ ผลงานส่วนใหญ่เกี่ยวกับชีวิตและประเพณีไทยมีความยึดมั่นและศรัทธาในศิลปะ ได้สร้างสรรค์ผลงานต่อเนื่องกันมาเป็นเวลายาวนาน

ผลงานของ อาจารย์ เฉลิม นาคีรักษ์ ที่แสดงออกถึงวัฒนธรรม และประเพณีไทย อย่างภาพแห่เทียนพรรษา หรือ ภาพหญิงกำลังปันด้ายกรอไหมพร้อมกับชายกำลังเป่าแคน แสดงให้เห็นถึงความงดงามเอกลักษณ์ของความเป็นไทยผ่านผลงานศิลปะของ อาจารย์เฉลิม และยังมีภาพทิวทัศน์ของสถานที่ต่าง ๆ อีกด้วย ซึ่งนอกจากเทคนิคสีน้ำมันที่เป็นเลิศแล้ว ที่แกลลอรียังจัดแสดงภาพสีน้ำฝีแปรงของ อ.เฉลิม ซึ่งเคยได้รับคัดเลือกให้เป็นปกวารสารสมาคมศิษย์เก่าเพาะช่าง เนื่องในนิทรรศการวันเฉลิม นาคีรักษ์อีกด้วย

ท่านต่อมา คือ อ.พิชัย นิรันต์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ประจำปีพุทธศักราช 2546 เป็นบุคคลสำคัญท่านหนึ่งในแวดวงจิตรกรรมร่วมสมัยของไทย ผลงานของ พิชัย นิรันต์ ได้ถูกจัดแสดงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ผลงานของท่านเป็นที่ยอมรับ และยังได้รับโอกาสในการวาดภาพประกอบหนังสือพระมหาชนก พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผลงานส่วนใหญ่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการศึกษาคำสอนทางพระพุทธศาสนา ประกอบกับจิตวิญญาณแห่งศิลปินที่ไม่ใช่เพียงสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ แต่ยังคอยให้ความรู้แก่เยาวชนทั่วไป

ผลงานของ อ.พิชัย นิรันต์ สะท้อนให้เห็นถึงสัจธรรมตามหลักพระพุทธศาสนา ผ่านการวาดภาพที่เกี่ยวกับบัว และดอกไม้ โดยสร้างสรรค์ภาพวาดบัวที่เกิดในโคลนตม บัวตูม และบัวบานเต็มที่ สื่อความหมายที่ลึกซึ้งและจรรโลงใจ ตามความเชื่อที่ว่าศาสนา ธรรมชาติ ศิลปะ เป็นบ่อเกิดของสุนทรียะในจิตใจ

ต่อกันด้วย อ.กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติปี 2540 สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรมและสื่อผสม) และประธานสภาศิลปกรรมไทยแห่งสหรัฐอเมริกา นับได้ว่าเป็นศิลปินไทยอีกท่านหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงในฟากโลกตะวันตกได้อย่างที่ไม่มีใครเหมือน

อ.กมล ทัศนาญชลี ถือเป็นศิลปินไทยเพียงไม่กี่ท่านที่ได้ทุนเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อไปเรียนรู้งานศิลปะจนประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ จนได้ฉายานามว่า “ศิลปินสองซีกโลก” เพราะผลงานของเขา Buddha’s Footprint ถูกบันทึกไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์ศิลป์โลก (Gardner’s Art Through The Ages) ณ ตอนนี้ ถือได้ว่าเป็นศิลปินไทยเพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับเกียรตินี้ โดยหนังสือดังกล่าว เป็นหนังสือตำราเรียนประวัติศาสตร์ศิลปะของอเมริกา ที่รวบรวมผลงานของศิลปินเอกของโลกนับจากอดีตถึงปัจจุบัน
ดูถูกศิลปะ
“ใครดูถูกดูหมิ่นศิลปะ
อนารยะไร้สกุลสถุลสัตว์
ราวลิงค่างเสือสางกลางป่าชัฏ
ใจมืดจัดกว่าน้ำหมึกดำ
เพียงกินนอนสืบพันธุ์นั้นฤๅ
ชื่อว่าสิ่งประเสริฐเลิศล้ำ
หยามยโสกักขฬะอธรรม
เหยียบย่ำทุกหย่อมหญ้าสาธารณ์
ภพหน้าอย่ามีรูปมนุษย์
จงผุดเกิดในร่างดิรัจฉาน
หน้าติดดินกินขี้เลื้อยคลาน
ทรมาณทุกข์ร้อนร้ายนิรันดร์เอยฯ”

ประพันธ์โดย อังคาร กัลยาณพงศ์
หลายท่านคงรู้จัก “อังคาร กัลยาณพงศ์” ในฐานะ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ (กวีนิพนธ์) ประจำปี พุทธศักราช ๒๕๓๒ นักกวีและศิลปินผู้โด่งดัง ผ่านการศึกษาวรรณศิลป์จากกวีโบราณเพื่อเข้าใจแก่นแท้ของสุนทรียะทั้งด้านความงามและความคิด แต่ “ท่านอังคาร” ยังสร้างสรรค์ผลงานศิลปะด้วยใจรัก ผ่านการสเกตช์ภาพด้วยปากกาและเกรยองสีดำ ตวัดลายเส้นจิตรกรรมที่ไม่เหมือนใคร แสดงให้เห็นถึงอารมณ์ ความรู้สึก จินตนาการ และความงดงามของศิลปะ

ต่อกันด้วยศาสตราจารย์ปรีชา เถาทอง ศิลปินแห่งชาติ ประจำปี 2552 สาขาทัศนศิลป์ ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่มีจุดเด่นของรูปทรง ลวดลาย วัตถุ แสงและเงา โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการศึกษาธรรมชาติ และพบว่าแสงเงาและวัฒนธรรมไทยเป็นจุดเด่นที่สามารถนำมาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้ ปรีชา เถาทอง ยังคงเสนอผลงานศิลปะที่บอกเล่าถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของไทย สะท้อนให้เห็นถึงสาระที่สอดแทรกอยู่ในผลงานผ่านผลงานที่นำมาจัดแสดงใน G111 Gallery แห่งนี้ รอคอยให้ผู้ที่สนใจมาเยี่ยมชม และซึมซับเติมเต็มจินตนาการ

ผลงานภายใน G111 Gallery Antiques & Collectibles ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ เพราะยังจัดแสดงงานประติมากรรมอันเลื่องชื่อ อย่าง “ขี่ม้าส่งเมือง” ของ อ.เขียน ยิ้มศิริ ที่ได้ถูกยกย่องให้เป็นศิลปินชั้นเยี่ยม ปี พ.ศ. 2496 สาขาประติมากรรม โดยผลงานส่วนใหญ่มีลักษณะตรงตามอุดมคติ แนวไทยประเพณี สิ่งที่นำมาแสดงออกคือ การใช้เส้นที่ดูอ่อนช้อย

เมื่อพูดถึงชื่อ “อ.เริงศักดิ์ บุณยวาณิชย์กุล” ก็คงเป็นเพียงไม่กี่ชื่อที่ไม่เพียงแต่แวดวงศิลปะไทยเท่านั้นที่รู้จัก แต่ศิลปินผู้ที่รู้ว่าตนชอบวาดรูปตั้งแต่อายุ 7 ขวบ และเริ่มวาดรูปอย่างจริงจังตอนอายุ 15 ปี ท่านนี้ โด่งดังไปไกลถึงสิงคโปร์ ด้วยสร้างสรรค์งานประติมากรรมความคิดในเชิงอุดมคติ (Idealism) ดังเช่น ผลงาน “The Hero” ม้าที่งดงามและสง่างามด้วยชฎา ดูน่าเกรงขาม แต่มีท่วงทาที่ดูกระเสือกกระสนกับอะไรบางอย่าง ซึ่งก็คล้ายกับมนุษย์ที่ต่างดิ้นรนค้นหาสิ่งต่าง ๆ ให้กับชีวิต

ศิลปินได้นำเอกลักษณ์ของความเป็นไทยผสานกับแนวคิดเชิงอุดมคติผ่านชฎาที่สวมใส่อยู่บนหัวของม้า และบนผิวก็ยังมีลวดลายไทยปรากฏอยู่ แสดงให้เห็นถึงความประณีตของศิลปินที่ตั้งใจสร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมชิ้นนี้ “หูลา ขาไก่ ไข่หมา หางปลากัด ผิวปลากราย ลายสีสวาด ชาติอาชา” บ่งบอกถึงลักษณะเด่นของผลงานชิ้นนี้ได้เป็นอย่างดี นับเป็นผลงานที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ และเอกลักษณ์ของความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน

อ.เริงศักดิ์ มิใช่เพียงรังสรรค์แต่ผลงานประติมากรรม เขายังคงทำสิ่งที่รักตั้งแต่วัยเด็กคือการวาดรูปควบคู่ไปด้วย ความสามารถของเขาเป็นที่ต้องตาของนักธุรกิจใหญ่ในสิงคโปร์และอินโดนีเซีย ที่สนับสนุนการทำงานจากการนำผลงานของเริงศักดิ์ไปเป็นของที่ระลึกให้แก่นักธุรกิจคนอื่น ๆ จนเป็นที่รู้จักไปทั่วภูมิภาคอาเซียนและระดับโลก

ปิดท้ายกันด้วยอีกหนึ่งผลงานงานประติมากรรมที่น่าชมที่นี่ คือ งานชุดประติมากรรมพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๙ โดย ปัทม์ บุญยรังค ที่มีฝีมือการรังสรรค์ของประติมากรแถวหน้าของของเมืองไทย “อ. ปัทม์ บุณยรังค” ศิลปินผู้รังสรรค์ผลงานด้วยการเป็น “ช่างหล่อ” ผู้นำเสนอเทคนิคและวิธีการจากต่างประเทศ ผสานเข้ากับแนวคิดและองค์ความรู้ที่ตกทอดเป็นมรดกของสยามเข้าด้วยกัน จนเกิดเป็นชิ้นงานที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้ง “งานประติมากรรมนารายณ์กวนเกษียรสมุทร ณ สนามบินสุวรรณภูมิ” ที่เราทุกคนคุ้นตากันดี และ “คชสารทองคำ” สัญลักษณ์ประจำจังหวัดนครนายก

นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ศิลปินไทยยังคงคอยสร้างจินตนาการและจรรโลงจิตใจมนุษย์ผ่านผลงานศิลปะและงานประติมากรรมที่เลื่องชื่อสอดแทรกด้วยแนวคิดและค่านิยมของคนในสังคม และบางท่านมีโอกาสโด่งดังและเป็นที่รู้จักในระดับโลก ใน G111 Gallery ยังมีผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียงอีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึงในบทความชิ้นนี้ อาทิ หทัย บุนนาค, สมภพ บุตราช, ชัชวาลย์ รอดคลองตัน, วราวุธ ชูแสงทอง, สมพงษ์ จันท้วม, พิริยะ ไกรฤกษ์, นิรันดร์ ไกรสรรัตน์, สุชาติ วงศ์ทอง, สงัด ปุยอ๊อก และสมยศ คำแสง

ด้วยผลงานศิลปะเกือบ 30 ภาพ พร้อมกับงานประติมากรรมหลากหลายชิ้น ที่ถูกจัดเรียงออกมาให้เสมือนเป็นมุมหนึ่งของบ้าน ทำให้เป็นความแตกต่างที่น่ามาเยี่ยมชมแกลเลอรี่แห่งนี้ และคอยเปิดประตูต้อนรับให้แก่ผู้ที่สนใจที่จะมาศึกษาและชมงานศิลปะของศิลปินที่โด่งดังทั้งในไทยและต่างชาติไว้ที่ G111 Gallery ในบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเองอย่าง “ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้ามาเยี่ยมชม” หากรู้สึกสนใจสามารถมาเยี่ยมได้ทุกวันยกเว้นวันจันทร์ เวลา 11.00 ถึง 18.00 น. ที่ ห้อง 411 ชั้น 4 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ซอยเจริญกรุง 24 หรือ โทรสอบถามข้อมูลได้ที่ 063-225-1555 หรือที่ Facebook : G111 Gallery Antiques & Collectibles

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึก