Featured Stories
ธีมทั้ง 4 ของนิทรรศการ Love – Camp – Explore – Dreams
Love
นิทรรศการเริ่มต้นด้วยความรักและเป็นความรักที่เราควรมีให้กับและกัน บิลชื่นชอบสีและความหลากหลายในดีไซน์ของเขาและทั้งหมดนี้ได้สะท้อนอยู่ในผลงานที่เขาต้องการสื่อว่าสิ่งเดียวที่ควรใช้สีในการแบ่งแยกคือการซักผ้า ในส่วนนี้ประกอบไปด้วยภาพวาดเกี่ยวกับการเหยียดเชื้อชาติและเล่าถึงความคิดของบิลต่อปัญหาที่ร้ายแรงเหล่านี้ด้วยการใช้สีและการนำเสนอบทบาททางสังคมอันล้าสมัย พร้อมทั้งสอดแทรกด้วยความขำขันและใส่ใจในทุกรายละเอียด นอกจากนั้นในส่วนนี้ยังนำเสนอโลกของเราในช่วงโควิดผ่านทางผลงาน “All they had to do was stay at home and watch TV” ซึ่งเป็นภาพที่บิลจินตนาการว่ามีมนุษย์ต่างดาวกำลังดูเชื้อโควิดกำลังแพร่ระบาดไปที่อื่นๆและคิดว่าสิ่งที่มนุษย์ต้องทำคือการแสดงความรักต่อกันและกัน โดยการอยู่บ้านและดูโทรทัศน์
Camp
ส่วนนี้ของนิทรรศการเกี่ยวกับพฤติกรรมเฉพาะตัวของกลุ่ม LGBTQ หรือที่บิลเรียกว่ากลุ่ม Friends of Dorothy มีหลากหลายเหตุผลที่ทำให้บิลรักประเทศไทย หนึ่งในนั้นคือการที่สังคมไทยยอมรับทุกคน ไม่ว่าจะมีสัญชาติหรือเพศสภาพใดก็ตาม ในส่วนนี้ทุกคนจะได้ชมสังคมไทยผ่านทางสายตาของบิล ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์บิลและคุณจิระชัย สามีของเขาจะจัดงานปาร์ตี้อันยิ่งใหญ่ที่ Baan Botanica และในเช้าวันถัดมาเหล่าเพื่อนๆมักจะโพสท่าเพื่อเป็นแบบให้บิลวาด
Explore
ใน Explore ทุกคนจะพบกับซีรีส์ภาพวาดและภาพสเก็ตช์ชาวปาปัวนิวกินีที่บิลได้วาดขึ้นในการไปท่องเที่ยวครั้งล่าสุดของเขาในเดือนธันวาคม ปี 2563 บิลท่องเที่ยวด้วยเรือที่ชื่อว่า Kudanil Explorer พร้อมกับเพื่อนๆของเขา รวมถึงเจสัน ฟรีดแมน (Jason Friedman) ผู้ร่วมงานกับเขามาเป็นเวลานานและแอน (Anne) พี่สาวของเขา ที่นั่นพวกเขาได้สำรวจเกาะอันห่างไกลที่มีอายุกว่าพันปีและแทบจะไม่ได้เชื่อมต่อกับโลกยุคปัจจุบันของเรา บิลสามารถพูดภาษาอินโดนีเซียได้ ดังนั้นบิลจึงได้พูดคุยกับคนท้องถิ่น ในขณะที่เขียนภาพ บิลได้เรียนรู้เรื่องราวของพวกเขาและจดพวกมันไว้ที่ด้านหลังของแต่ละภาพสเก็ตช์ นอกจากนั้นผู้หลงใหลในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างบิลยังรู้สึกปลาบปลื้มไปกับฝูงปลาที่กำลังแหวกว่ายอยู่ในน้ำ เขาได้วาดปลาที่เขาชื่นชอบจากความทรงจำของเขาแทนที่จะไปศึกษาเอาจากในหนังสือ หลังจากที่เขาได้สเก็ตช์ภาพและลงด้วยสีน้ำมันทันที บิลกลับมาที่กรุงเทพฯ และวาดภาพจากภาพสเก็ตช์เหล่านี้ลงบนผืนผ้าใบขนาดใหญ่ แต่ละภาพเชื่อมกับภาพสเก็ตช์พร้อมกับเพิ่มความชื่นชอบส่วนตัวลงไป
Dreams
สำหรับธีมสุดท้ายในนิทรรศการ ผู้ชมจะได้เดินทางเข้าสู่ความคิดของบิล ท่องไปยังความฝันและผลงานที่สร้างขึ้นจากความฝันของเขา เป็นการผจญภัยเข้าสู่จินตนาการของเขา ตัวอย่างผลงานเช่น “Travels with Gramma” ซึ่งเป็นภาพที่แสดงให้เห็นถึง กีย์ (Gui) หนึ่งในนายแบบคู่ใจของบิล ผู้กำลังเดินผ่านทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยต้นกระบองเพชรในความฝันบนเกาะมาดากัสการ์ในจินตนาการ นอกจากนั้นยังท่องไปยังจิตใต้สำนึกและห้วงความฝันที่เชื่อมกับจุดเริ่มต้นของนิทรรศการนี้ที่ผู้ชมทุกคนจะได้ทำความรู้จักบิลในฐานะนักออกแบบและสิ่งที่ BENSLEY สร้างสรรค์ขึ้นในฐานะสตูดิโอไปกับโรงภาพยนตร์ของเบนสเลย์ (Bensley Cinema) ความฝันสำหรับนักออกแบบเป็นจุดเริ่มต้นของทุกๆสิ่ง และจุดจบของนิทรรศการนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นอันยิ่งใหญ่ของผู้ที่มาชมนิทรรศการ