Featured Stories
มรดกอันล้ำค่าแห่งราชวงศ์หมิง: การผสมผสานอันลงตัวระหว่างศิลปศาสตร์และสัญศาสตร์
หากจะกล่าวถึงของสะสมและชิ้นงานแอนทีคที่เป็นเอกลักษณ์มากที่สุด คงจะหนีไม่พ้นเครื่องปั้นดินเผาที่ถูกประดับประดาแต่งเติมไปด้วยหมึกสีน้ำเงินอันเป็นที่รู้จักกันดีอย่าง “เครื่องลายคราม” สมบัติแห่งวัฒนธรรม ศิลปะ และประวัติศาสตร์ ที่ในปัจจุบันนั้นถูกยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์ของศิลปะเครื่องปั้นดินเผาจีน โดยเครื่องลายครามที่ถือได้ว่ามีความประณีต สวยงาม ละเอียดลออ และมีราคาแพงที่สุดก็คือเครื่องลายครามของราชวงศ์หมิงนั่นเอง
เครื่องลายครามของราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368 – 1644) แห่งประเทศจีนนั้นถือเป็นผลิตภัณฑ์กระเบื้องเคลือบที่ได้รับการยกย่องเป็นอย่างสูงจากนักสะสมในปัจจุบัน อีกทั้งยังถือเป็นเครื่องลายครามที่มีอิทธิพลสำคัญต่อเครื่องกระเบื้องเคลือบของประเทศจีนและที่ส่งเข้ามาค้าขายในประเทศไทยอีกมากมาย โดยได้มีการค้นพบว่าความประณีตละเอียดลอออันแสนงดงามของเครื่องลายครามของราชวงศ์หมิงนั้นเป็นผลมาจากความสำเร็จทางด้านเศรษฐกิจในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15 ซึ่งเป็นช่วงที่แผ่นดินจีนได้เริ่มมีการค้าขายกับต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ยุโรป ญี่ปุ่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมไปถึงตะวันออกกลาง ส่งผลให้ความต้องการในการผลิตงานฝีมือที่มีคุณภาพของประเทศจีนนั้นเพิ่มขึ้นเพื่อนำไปทำการค้าขายในประเทศต่างแดน นอกจากนี้ ยังเป็นช่วงพอดีพอเหมาะกับในสมัยที่ราชวงศ์หมิงที่โปรดปรานในเครื่องเคลือบกระเบื้องยังคงครองราชย์อยู่ ทำให้นอกจากเครื่องลายครามจะเป็นที่ต้องการในต่างประเทศแล้ว ยังเป็นที่นิยมในเมืองจีนอีกด้วย โดยเฉพาะเครื่องเคลือบลายครามที่ผลิตที่ ‘จิงเต๋อเจิ้น’ ในมณฑลเจียงซี
เครื่องลายครามของราชวงศ์หมิงส่วนใหญ่จะเป็นการวาดลวดลายสีครามลงบนพื้นกระเบื้องขาวขุ่นและมักจะสื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ ธรรมชาติ และความเรียบง่ายอันเป็นมงคล ซึ่งก็เป็นผลพลอยมาจากการที่ราชวงศ์หมิงถือคติชีวิตตามราชวงศ์หยวน ทั้งจักรพรรดิหมิงยังสนับสนุนการปรับปรุงสถานศักดิ์สิทธิ์และการปฏิบัติพิธีกรรมของลัทธิเต๋า ส่งผลให้เครื่องลายครามหมิงยุคแรกมักถูกวาดไปด้วยลวดลายที่ค่อนข้างเรียบง่ายและมักจะใช้ธรรมชาติเป็นต้นแบบเสียส่วนใหญ่ ทำให้รายละเอียดของเครื่องลายครามสมัยราชวงศ์หมิงนั้นไปตกอยู่ที่กระบวนการผลิตอันแสนประณีต โดยในการประมูลครั้งนี้ RCB Auctions ก็ได้คัดสรรชุดถ้วยชามในยุคสมัยของราชวงศ์หมิงมาให้ทุกท่านได้ชื่นชมกัน
ชุดชามสมัยราชวงศ์หมิงที่นำมาให้ชมกันในการประมูลครั้งนี้นั้นเป็นชุดเครื่องชามพื้นบ้าน ทำให้มีการเขียนลวดลายแบบเรียบง่าย หากแต่มีความสวยงามและละเอียดลออเป็นอย่างยิ่ง โดยได้มีการนำพืชพันธุ์และสัตว์ในวิถีชีวิตประจำวันมาดัดแปลงเป็นลวดลายเพื่อสื่อความหมายอันมงคลแทนการสลักข้อความ ไม่ว่าจะเป็นการวาดลาย ‘กระบือ’ ที่ถูกใช้แทนสัญลักษณ์ของความเข้มแข็ง ความมุ่งมั่น และความอดทน เพื่อสื่อถึงพลังแห่งความอุดมสมบูรณ์และความสำเร็จที่จะนำมาสู่คนในบ้าน หรือลวดลาย ‘กอบัวเป็ด’ ซึ่งเป็นลวดลายของเป็ดแมนดาริน หรือ เยวียน-ยาง (鸳鸯 Yuānyāng) ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นนกที่มีความสวยงามมากที่สุดในโลก เป็ดแมนดารินจะจับคู่เพียงตัวเดียวตลอดชีวิต ดังนั้นจึงเป็นสัญลักษณ์ของ ‘รักแท้’ ที่มักปรากฏอยู่ในนิทานพื้นบ้านเรื่องต่าง ๆ ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกและยังเป็นสัตว์แห่งความเป็นสิริมงคลตามความเชื่อของชาวจีนอีกด้วย เป็ดแมนดารินตัวผู้จะคาบดอกบัว ส่วนตัวเมียจะคาบฝักบัว ซึ่งสามารถแปลเป็นความหมายได้ว่า “ขอให้การสมรสนี้จงมีความสุขและได้ลูกชาย ลูกหลานมากมายดุจฝักบัว” ภาพมงคลจีนส่วนใหญ่จึงจะต้องมีเป็ดแมนดารินคู่กับดอกบัวเสมอ ๆ โดยเฉพาะงานสมรส
ด้วยความประณีตทั้งในกระบวนการผลิตที่ทำให้เนื้อกระเบื้องในสมัยราชวงศ์หมิงมีความละเอียดสวยงามและการสลักความหมายไปด้วยศิลปะและความเชื่อพื้นบ้านนี้ ทำให้เครื่องเคลือบลายครามในยุคนี้มีความโด่งดัง ทั้งยังเป็นที่ประจักษ์แก่ทุกคนที่พบเห็น โดยในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 – 17 นักสะสมจากทั่วโลกต่างให้การยอมรับและยกย่องเครื่องลายครามในยุคนี้ว่ามีความวิจิตรงดงามมากที่สุด อีกทั้งยังให้การขนานนามสมัยของราชวงศ์หมิงว่าถือเป็นยุคทองที่มีความเฟื่องฟูทางด้านศิลปะมากที่สุดอีกด้วย
ประมูลชิ้นงานที่ https://bit.ly/3swC6DO