Featured Stories
กลองมโหระทึก เสียงก้องกังวาลแห่งประวัติศาสตร์
‘กลองมโหระทึก’ หรืออีกที่เรียกชื่อว่า ‘กลองกบ’ คือประดิษฐกรรมจากอารยธรรมยุคสัมฤทธิ์โบราณในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เข้ามามีบทบาทในวัฒนธรรมไทย จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่ากลองมโหระทึกมิได้เป็นเครื่องดนตรีสำหรับเล่นเพื่อความบันเทิง แต่เป็นเครื่องดนตรีที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมอย่างหนึ่ง
สันนิษฐานว่าต้นตอของกลองมโหระทึกมาจากวัฒนธรรมดงเซิน (Dong Son) ซึ่งเป็นวัฒนธรรมหนึ่งในยุคก่อนประวัติศาสตร์ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีอายุประมาณ 2,000 ปีจนถึง 1,000 กว่าปีก่อนคริสตกาล และมีศูนย์กลางอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในแขวงทันหัวของเวียดนามตอนเหนือ หรือที่เรียกว่าแคว้นตันเกี๋ย ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมสัมฤทธิ์บนคาบสมุทรชานตงทางตอนใต้ของจีนและแพร่ขยายอิทธิพลทางวัฒนธรรมเลียบฝั่งทะเลของประเทศจีนลงมาจนถึงเวียดนามตอนเหนือ โดยได้มีการพบร่องรอยของชุมชนมนุษย์ที่ประสบความสำเร็จในผสมแร่ทองแดงและดีบุกกลายเป็นโลหะสัมฤทธิ์นำมาใช้ประดิษฐ์เครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ ก่อนจะมีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมกับพื้นที่อื่น ๆ ในภูมิภาค
กลองมโหระทึกมีลักษณะเป็นกลองตั้งมีตั้งแต่ขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ หน้ากลองทำจากโลหะสัมฤทธิ์ตกแต่งเป็นลวดลาย ซึ่งส่วนใหญ่นิยมลวดลายเป็นวงโคจรของดวงดาวที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง บ้างเป็นภาพวงโคจรของฝูงนก บ้างเป็นขบวนของผู้คนลักษณะต่าง ๆ ส่วนตรงมุมทั้ง 4 ของหน้ากลองมีรูปกบ 4 ตัวนั่งอยู่ นอกจากนี้ กลองมโหระทึกยังมีวิธีการใช้ที่แตกต่างกันไป ประการแรกใช้ตีบอกสัญญาณสำคัญในพิธีกรรมต่าง ๆ บอกกล่าวการปรากฏตัวของชนชั้นสูง ประการต่อมาใช้ในพิธีกรรมเกี่ยวกับความอุดมสมบูรณ์หรือพิธีขอฝน ซึ่งสามารถสันนิษฐานได้จากรูปกบบนหน้ากลอง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของฝนฟ้ามาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์
เมื่อพิจารณาลวดลายบนหน้ากลองที่ส่วนใหญ่ทำเป็นวงกลมซ้อนกันและมีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาของมนุษย์ยุคดึกดำบรรพ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรู้จักสังเกตวิถีโคจรของดวงอาทิตย์และดวงดาวในธรรมชาติที่เป็นปรากฎการณ์บนท้องฟ้าที่มีความสัมพันธ์กับฤดูกาลปลูกเพาะ หรือความสัมพันธ์ระหว่างดวงจันทร์กับปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลง แสดงในเห็นถึงภูมิปัญญาต่าง ๆ ซึ่งพัฒนาขึ้นมาจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มีผลต่อความอุดมสมบูรณ์และชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน กลองมโหระทึกจึงมีความสัมพันธ์โดยตรงกับพิธีกรรมเพื่อความอุดมสมบูรณ์ของมนุษย์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาตั้งแต่โบราณ
กลองมโหระทึกในวัฒนธรรมไทยมีปรากฏอยู่ในจารึกตั้งแต่ยุคก่อนสุโขทัยในบทพระอัยการสมัยอยุธยา จนปรากฏเป็นรูปธรรมชัดเจนในสมัยรัตนโกสินทร์ ซึ่งประโคมกลองมโหระทึกในงานพระราชพิธีต่าง ๆ เฉพาะพระอิสริยยศพระมหากษัตริย์ อาทิ การเสด็จออกมหาสมาคมในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา หรือพระราชพิธีถวายน้ำสงฆ์พระบรมศพในอดีต ซึ่งจะมีการย่ำมโหระทึกไปพร้อมกับการประโคมแตรสังข์ ตีกลองชนะ รวมถึงการประโคมในพระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ซึ่งบริเวณบันไดทางขึ้นพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ด้านหน้าของฉากลับแลกั้นประตูทั้ง 2 ข้าง ก็จะมีกลองมโหระทึกตั้งอยู่เพื่อใช้ในพระราชพิธีอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีข้อสันนิษฐานว่ากลองชนิดนี้แต่เดิมคงสร้างขึ้นสำหรับตีเพื่อขอฝน เพราะเชื่อกันว่าเมื่อกบร้องแล้วจะเป็นเหตุให้ฝนตก จึงเป็นที่มาของชื่อ ‘กลองกบ’ นั่นเอง
Lot 199
กลองมโหระทึกสัมฤทธิ์ตกแต่งลวดลายสัตว์โบราณ (1 ชิ้น)
สไตล์พม่าจากศตวรรษที่ 20
ขนาด: กว้าง 64.5 ซม. สูง 50 ซม.
ราคาประเมิน: 10,000 – 15,000 บาท
ราคาเริ่มต้น: 5,000 บาท