พาเที่ยวยุโรปไปกับภาพวาดของแวน โก๊ะ

เชื่อว่าตอนนี้หลายคนคงอยากเดินทางท่องเที่ยวแต่ด้วยสถานการณ์คงต้องรอกันไปยาวๆ การแพลนล่วงหน้าไว้ก็เป็นความคิดที่ดี วันนี้เราจะพาทุกคนจินตนาการเข้าไปในภาพวาดของแวน โก๊ะ เพื่อไปท่องเที่ยวยุโรปตามรอยศิลปินชื่อดังคนนี้ใน 3 ประเทศ

อังกฤษ
Churches at Petersham and Turnham Green (1873)
หลังจากทำงานให้กับบริษัทอาร์ตดีลเลอร์ กูปิล แอนด์ ซี ที่กรุงเฮก ได้สองสามปีจนฝีมือเข้าตา แวน โก๊ะ ได้ย้ายไปทำงานที่สาขาในกรุงลอนดอนเดือนพฤษภาคม ปี 1873 ต่อมาในปี 1876 แวน โก๊ะ ได้ไปเยี่ยมเยือนและเทศน์ที่โบสถ์เมธอดิสต์ที่ปีเตอร์แชม หมู่บ้านริมแม่น้ำเธมส์ เขาถ่ายทอดเหตุการณ์และสถานที่ในวันอาทิตย์นั้นด้วยการวาดภาพโบสถ์ไว้ในจดหมายที่เขียนถึงน้องชาย

เนเธอร์แลนด์
Bulb Fields (1883)
เมื่อมาถึงดินแดนแห่งกังหันลม แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้คือการเที่ยวชมสวนดอกไม้ ภาพ Bulb Fields เป็นภาพสวนดอกไม้ภาพแรกที่แวน โก๊ะ ที่วาดโดยสีน้ำมันในปี 1883 ซึ่งเป็นปีที่สองที่เขาอาศัยอยู่ที่กรุงเฮก ภาพนี้ทำให้เราเห็นถึงการวาดภาพวิวทิวทัศน์ของศิลปินคนนี้ในช่วงแรกๆ ซึ่งเป็นภาพของทุ่งทิวลิปที่กำลังเบ่งบาน แปลงดอกไม้ที่ดูเป็นระเบียบสื่อถึงความเป็นดัทช์ บ้านเกิดของแวน โก๊ะ ได้อย่างดี
Drawbridge in Nieuw-Amsterdam (1883)
Langlois Bridge at Arles (1888)
แวน โก๊ะ ชอบวาดภาพวิวทิวทัศน์จากหน้าต่างห้องของเขา ภาพ Drawbridge in Nieuw-Amsterdam (1883) เป็นหนึ่งในผลงาน 148 ชิ้นของแวน โก๊ะ ที่วาดด้วยสีน้ำ เขากล่าวชื่นชมว่าสีน้ำสามารถสื่อถึงบรรยากาศและระยะทางได้อย่างงดงาม ด้วยเหตุผลนี้ทำให้เขาวาดผลงานสะพานอีกหนึ่งชิ้นคือ Langlois Bridge at Arles ในปี 1888 ภาพสะพานชิ้นนี้ต่างจากภาพก่อนตรงที่การใช้สีน้ำมันบนผืนผ้าใบเพื่อให้ได้เส้นและเหลี่ยมมุมที่คมชัดเมื่อวาดภาพที่มีมิติ ในปัจจุบันสะพาน Langlois Bridge ที่เมืองอาลส์ ประเทศฝรั่งเศสเป็นที่รู้จักในนาม Van Gogh Bridge หรือ สะพาน แวนโก๊ะ

ฝรั่งเศส
Le Moulin de la Galette (1886)
ในช่วงที่แวน โก๊ะ อาศัยอยู่กับน้องชายที่กรุงปารีสในอพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่งในย่านมงต์มาเตรอ ใกล้ๆ กันนั้นมีกังหันลมชื่อว่ามูแล็ง เดอ ลา กาแล็ต (Moulin de la Galette) ซึ่งเป็นลานเต้นรำกลางแจ้งที่มีชื่อเสียง เป็นที่ที่ทำให้แวน โก๊ะ ได้พบกับศิลปินทีมีชื่อเสียงในสมัยนั้นอย่างตูลูซ-โลเทร็ค, พอล ซีญัค รวมถึงพอล โกแก็ง
สถานที่แห่งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ตูลูซ-โลเทร็ค และปิแอร์-ออกุสต์ เรอนัวร์ วาดภาพด้วยเช่นกัน
Starry Night over the Rhone (1888)
นอกจากภาพ Starry Night ที่มีชื่อเสียง ยังมีอีกภาพหนึ่งในทำนองเดียวกันนี้คือ Starry Night Over the Rhône ที่ถ่ายทอดถึงยามค่ำคืน ณ ริมฝั่งแม่น้ำโรนของเมืองอาลส์ ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ฉากในภาพนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Yellow House สตูดิโอของแวน โก๊ะ จริงๆ แล้วเขาวาดภาพนี้ก่อนจะวาดภาพ The Starry Night อันโด่งดังในปี 1889
ใครที่มีโอกาสไปเที่ยวฝรั่งเศสแต่ไม่ได้ลงไปทางใต้ ก็สามารถชมภาพ Starry Night Over the Rhône ผลงานจริงได้ที่พิพิธภัณฑ์ออร์เซย์ ในกรุงปารีส นอกจากนี้ที่พิพิธภัณฑ์ยังมีผลงานของแวน โก๊ะ ชิ้นอื่นๆ เช่น Portrait of the Artist (1887), Self Portrait (1889), Van Gogh’s Room in Arles (1888), Portrait of Dr. Gachet (1890) และ The Church in Auvers-Sur-Oise (1890) เป็นต้น

แต่ก่อนที่จะเดินทางไปถึงยุโรป มาชมนิทรรศการมัลติมีเดีย Van Gogh. Life and Art กันก่อนได้ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน ที่ MODA Gallery แล้วคุณอาจจะได้จุดหมายปลายทางใหม่ๆ สำหรับทริปต่อไปก็เป็นได้